เนื้อหาการเรียนการสอน
4. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย และ สุขภาพ
- อวัยวะไม่สมส่วน
- อวัยวะส่วนหนึ่งหายไป
- มีปัญหาทางระบบประสาท
- มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
จำแนกเป็น 2 ประเภท
4.1 อาการบกพร่องทางร่างกาย
4.1.1 Cerebral Palsy CP เป็นอัมพาตเนื่องจากสมองพิการหรือเป็นผลมาจากที่สมองกำลังพัฒนาอยู่ถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่าง หรือหลังคลอด
4.1.2 กล้ามเนื้ออ่อนเเรง Muscular pistrophy
- เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุม กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ เสื่อมสลาย
- เดิน นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
- มีความพิการซ้อนระยะหลัง คือ ความจำเเย่ลง สติปัญญาเสื่อม
4.1.3 โรคทางระบบกล้ามเนื้อ
- ระบบกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก กระดูกสะโพกเคลื่อน
- ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื้อ
- กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ
4.1.4 โปลิโอ Poliomyelitis
- กล้ามเนื้อลีบ เล็กไมีมีผลกระทบต่อสติปัญญา มาจากการกินอาหารกินน้ำไม่ล้าง มือ
- เดินไม่ได้ อาจเดินได้หากมีอุปกรณ์ช่วยเดิน
- เดินไม่ได้ อาจเดินได้หากมีอุปกรณ์ช่วยเดิน
4.1.5 เเขนขาด้วนเเต่กำเนิด Limb Deficiency
4.1.6 โรคกระดูกอ่อน Osteogenesis Imperfeta
4.1.6 โรคกระดูกอ่อน Osteogenesis Imperfeta
4.2 ความบกพร่องทางสุขภาพ
เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
- ลมบ้าหมู Grandmal เกิดอาการซักจะทำให้หมดสติ เเละหมดความรู้สึกในขณะชัก กล้ามเนื้อเกร็งหรือเเขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
- การชักในช่วงเวลาสั้นๆ Petitmal เป็นอาการชักระยะสั้นๆ5-10 นาที เด็กจะนั่งเขย่าตัว หรือตัวสั่นเล็กน้อย
- การชักแบบรุนเเรง เกิดอาการชักเด็กจะเสียงดัง หมดความรู้สึก ล้มลง เกิดขึ้นราว
5.4.3 Conduction Aphasia
5.4.4 Nominal Aphasia
5.4.6 Sensory Agraphia
5.4.7 Motor Agraphia
5.4.8 Cortical Alexia
5.4.9 Motor Alexia
5.4.11 Visual Agnosia
5.4.12 Auditory Agnosia
- ลมบ้าหมู Grandmal เกิดอาการซักจะทำให้หมดสติ เเละหมดความรู้สึกในขณะชัก กล้ามเนื้อเกร็งหรือเเขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
- การชักในช่วงเวลาสั้นๆ Petitmal เป็นอาการชักระยะสั้นๆ5-10 นาที เด็กจะนั่งเขย่าตัว หรือตัวสั่นเล็กน้อย
- การชักแบบรุนเเรง เกิดอาการชักเด็กจะเสียงดัง หมดความรู้สึก ล้มลง เกิดขึ้นราว
2-5 นาที จากนั้นก็จะหายเเละนอยหลับไปชั่วครู่
- อาการชักแบบ Partial Compex เกิดอาการเป็นระยะ กัดริมฝีปากไม่รู้สึกตัว เดินไปมา บางคนอาจเกิดความโกรธหรือโมโห หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้และ ต้องการนอนพัก
- อาการชักไม่รู้ตัว เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้ตัว เช่น ร้องเพลงเสียงดัง ดึง เสื้อผ้า เดินเหม่อลอย เเต่ไม่มีอาการชัก
- โรคต่างๆที่เกิดขึ้น ระบบทางเดินหายใจ เบาหวาน อักเสบรูมาตอย ศีรษะโต หัวใจ มะเร็ง เลือดไหลไม่หยุด
5. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดเเละภาษา
เด็กกลุ่มนี้พูดไม่ชัด ออกเสียงผิดเพี้ยน อวัยวะที่ออกเสียงไม่เป็นไปตามลำดับขั้น การใช้อวัยวะในการพูดไม่เป็นไปตามตั้งใจ มีอากัปกิริยาที่ผิดปกติขณะพูด
5.1. ความผิดปกติด้านการออกเสียง
5.1.1 ออกเสียงผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานของภาษาเดิม
5.1.2 เพิ่มหน่วยเสียงในคำโดยไม่จำเป็น
5.1.3 เอาเสียงหนึ่งแทนเสียงหนึ่่ง
- อาการชักแบบ Partial Compex เกิดอาการเป็นระยะ กัดริมฝีปากไม่รู้สึกตัว เดินไปมา บางคนอาจเกิดความโกรธหรือโมโห หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้และ ต้องการนอนพัก
- อาการชักไม่รู้ตัว เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้ตัว เช่น ร้องเพลงเสียงดัง ดึง เสื้อผ้า เดินเหม่อลอย เเต่ไม่มีอาการชัก
- โรคต่างๆที่เกิดขึ้น ระบบทางเดินหายใจ เบาหวาน อักเสบรูมาตอย ศีรษะโต หัวใจ มะเร็ง เลือดไหลไม่หยุด
5. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดเเละภาษา
เด็กกลุ่มนี้พูดไม่ชัด ออกเสียงผิดเพี้ยน อวัยวะที่ออกเสียงไม่เป็นไปตามลำดับขั้น การใช้อวัยวะในการพูดไม่เป็นไปตามตั้งใจ มีอากัปกิริยาที่ผิดปกติขณะพูด
5.1. ความผิดปกติด้านการออกเสียง
5.1.1 ออกเสียงผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานของภาษาเดิม
5.1.2 เพิ่มหน่วยเสียงในคำโดยไม่จำเป็น
5.1.3 เอาเสียงหนึ่งแทนเสียงหนึ่่ง
5.2 ผิดปกติด้านจังหวะเวลาของการพูด เช่น พูดรัว พูดติดอ่าง
5.3 ผิดปกติด้านเสียง ระดับเสียง ความดัน คุณภาพ
5.4 ความผิดปกติทางการพูดเเละภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง
5.4.1 Motor Aphasia
5.3 ผิดปกติด้านเสียง ระดับเสียง ความดัน คุณภาพ
5.4 ความผิดปกติทางการพูดเเละภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง
5.4.1 Motor Aphasia
เข้าใจคำถามหรือคำสั่งเเต่พูดไม่ได้ออกเสียงลำบาก พูดช้า พูดไม่ถูกไวยากรณ์
5.4.2 Wernioke's Aphasia
5.4.2 Wernioke's Aphasia
ไม่เข้าใจคำถามได้ยินเเต่ไม่เข้าใจ ออกเสียงไม่ติดขัด แต่มักใช้คำผิดๆหรือใช้คำอื่นที่ไม่มีความหมายมาแทน
5.4.3 Conduction Aphasia
เด็กที่ออกเสียงได้ไม่ติดขัด เข้าใจคำถามดีแต่พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของ มักเกิดร่วมไปกับอัมพาตของร่างกายซีกขวา
5.4.4 Nominal Aphasia
เด็กที่ออกเสียงได้ เข้าใจคำถามก็พูดตามได้ แต่บอกชื่อวัตถุไม่ได้
5.4.5 Global Aphasia
5.4.5 Global Aphasia
ไม่เข้าใจทุกภาษา พูดไม่ได้เลย
5.4.6 Sensory Agraphia
เขียนเองไม่ได้ เขียนตอบคำถามหรือเขียนชื่อวัตถุก็ไม่ได้ มักเกิดร่วมกับ Gerstmann's syndrome
5.4.7 Motor Agraphia
เด็กที่ลอกตัวเขียนหรือตัวพิมพ์ไม่ได้ เขียนตามคำบอกไม่ได้
5.4.8 Cortical Alexia
อ่านไม่ออกเพราะไม่เข้าใจภาษา
5.4.9 Motor Alexia
เด็กที่เห็นตัวเขียน ตัวพิมพ์ เข้าใจความหมายเเต่อ่านไม่ได้
5.4.10 Gerstmann's Syndrome
5.4.10 Gerstmann's Syndrome
ไม่รู้ซื่อนิ้ว ไม่รู้ซ้าย ขวา คำนวณไม่ได้ เขียนไม่ได้ อ่านไม่ออก(หนักมาก)
5.4.11 Visual Agnosia
เด็กที่มองเห็นวัตถุเเต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร บางทีบอกชื่อนิ้วไม่ได้
5.4.12 Auditory Agnosia
เด็กที่ไม่มีปัญหาทางการได้ยินเเต่แปลความหมายของคำเเละประโยชน์ไม่ได้ยิน
สะท้อนการเรียนรู้
จากการเรียนในสัปดาห์นี้ ทำให้เราได้รู้ประเภทของเด็กที่ความต้องพิเศษมากขึ้น อีก 2 ประเภท จากทั้งหมด 10 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภท มีรายละเอียดของเด็กค่อนข้างเยอะ ทำให้เราได้เรียนรู้ลักษณะและพฤติกรรมของเด็ก เหล่านี้มากขึ้นๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
การเรียนในวันนี้ หลังจากเนื้อหาจากการเรียนการสอนแล้ว อาจารย์ได้เปิด วีดีโอ กับบุคคลที่มีความต้องการพิเศษให้ดู ทำให้เราได้รู้ว่า ถึงแม้ว่าบุคคล บุคคลนั้นจะมีทุกอย่างไม่เหมือนเรา แต่เค้าก็สามารถมีชีวิตอยู่ และทำทุกวันได้ปกติ เหมือนคนทั่วไป ทำให้เราได้คิดได้มองในหลายๆแง่ ว่าคนเราเลือกเกิดมาที่จะเป็นไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะเป็นได้ เพียงแต่อย่ายอมแพ้ และเราในฐานะบุคคลที่มีทุกอย่างปกติ ควรช่วยเหลือบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ ให้โอกาศ และ กำลัง สำหรับพวกเค้า ได้ต่อสู้ไปด้วยกันกับพวกเรา ช่วยเหลือได้เท่าที่เรามีความสามารถ
อนาคตความเป็นครู เมื่อพบเจอเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เราก็ควรช่วยเหลือ ส่งเสริม พวกเค้าให้เต็มที่ คืนเด็กพิเศษให้กลับไปสู่สภาวะปกติให้ได้มากที่สุด
จากการเรียนในสัปดาห์นี้ ทำให้เราได้รู้ประเภทของเด็กที่ความต้องพิเศษมากขึ้น อีก 2 ประเภท จากทั้งหมด 10 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภท มีรายละเอียดของเด็กค่อนข้างเยอะ ทำให้เราได้เรียนรู้ลักษณะและพฤติกรรมของเด็ก เหล่านี้มากขึ้นๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
การเรียนในวันนี้ หลังจากเนื้อหาจากการเรียนการสอนแล้ว อาจารย์ได้เปิด วีดีโอ กับบุคคลที่มีความต้องการพิเศษให้ดู ทำให้เราได้รู้ว่า ถึงแม้ว่าบุคคล บุคคลนั้นจะมีทุกอย่างไม่เหมือนเรา แต่เค้าก็สามารถมีชีวิตอยู่ และทำทุกวันได้ปกติ เหมือนคนทั่วไป ทำให้เราได้คิดได้มองในหลายๆแง่ ว่าคนเราเลือกเกิดมาที่จะเป็นไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะเป็นได้ เพียงแต่อย่ายอมแพ้ และเราในฐานะบุคคลที่มีทุกอย่างปกติ ควรช่วยเหลือบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ ให้โอกาศ และ กำลัง สำหรับพวกเค้า ได้ต่อสู้ไปด้วยกันกับพวกเรา ช่วยเหลือได้เท่าที่เรามีความสามารถ
อนาคตความเป็นครู เมื่อพบเจอเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เราก็ควรช่วยเหลือ ส่งเสริม พวกเค้าให้เต็มที่ คืนเด็กพิเศษให้กลับไปสู่สภาวะปกติให้ได้มากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น